Calcium (แคลเซียม)

Calcium (แคลเซียม)

(จากเอกสารอ้างอิง > Heaney RP, Recker RR, Weaver CM. Absorbability of calcium sources: The limited role of solubility, Calcific Tissue Int 1990; 300-4.

+ เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่กระดูกและฟัน

+ ลดอัตราการเกิดภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) หรือกระดูกเปราะ หักง่าย ในสตรีวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากภาวะการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)

+ ลดอาการผิดปกติของการส่งกระแสประสาท เช่น มีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า เป็นตะคริวบ่อย

+ ใช้เสริมในผู้ที่ขาดแคลเซียมหรือการดูดซึมแคลเซียมผิดปกติ

+ ลดอาการปวดท้องเนื่องจากประจำเดือน

+ แมกนีเซียม และวิตามินดี จะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น

Calcium D-Glucarate (แคลเซียม ดี-กลูคาเรท)

+  เป็นสารธรรมชาติที่พบในพืชผัก ผลไม้

+  ช่วยในการกำจัดสารพิษและสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย

                                                                       Magnesium (แมกนีเซียม)

+ เป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย มีผลทำให้กล้ามเนื้อลาย (Skeletal muscles) และกล้ามเนื้อเรียบ (Smooth muscles)  เกิดการคลายตัว ช่วยต้านการเกร็งของกล้ามเนื้อ หรือภาวะความเครียด (Anti-stress) ได้

+ เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน

+ ลดการเกร็งของผนังหลอดเลือด ขยายหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งส่งผลให้เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ได้รับออกซิเจนและสารอาหารมาเลี้ยงมากขึ้น

+ ป้องกันการหดตัวของเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจ จึงช่วยป้องกันอาการหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยงได้ (Angina Pectoris)

+ ช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น

+ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน ไมเกรน หอบหืด และกล้ามเนื้อหดเกร็ง

• การได้รับสารอาหารต่างๆ ควรได้รับจากการบริโภคอาหารหลักหลายชนิดให้ครบ 5 หมู่และเป็นสัดส่วนที่พอเหมาะ
• ควรรับประทานตามความเข้มข้นที่เหมาะสม กรุณาอ่านข้อมูลการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยละเอียด
• ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวไม่ใช่ยา จึงไม่มีผลในการบำบัดรักษาและบรรเทาอาการของโรค เป็นเพียงสารอาหารที่ออกฤทธิ์ตามคุณสมบัติเท่านั้น

• ทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และธัญพืช
• ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
• ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชม. จะช่วยให้ผิวพรรณแลดูสดใส
• ทำอารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ เพื่อชะลอวัย
• ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น