Collagen (คอลลาเจน)
+ Collagen คือโปรตีนธรรมชาติ พบมากในผิวหนังและกระดูกของสิ่งมีชีวิต ลักษณะเป็นเส้นใยโครงสร้างหนาแน่นขนาดเล็กมาก เป็นโครงสร้างหลักของผิวหนังและกระดูก เมื่ออายุมากขึ้นโครงสร้างเหล่านี้จะค่อยๆ เสื่อมสลายลง ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนัง, กระดูกและข้อต่อเสื่อมลง
+ โดยปกติคอลลาเจนจะไม่สามารถทานได้โดยตรง เนื่องจากมีขนาดใหญ่และมีความหนาแน่นสูงมาก ซึ่งคอลลาเจนที่พร้อมรับประทานควรอยู่ในรูปของ Hydrolyzed Collagen หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า "Hydrolysate" หรือ "Peptide" ของคอลลาเจน
+ เสริมสร้างและชะลอการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนในผิวหนังและกระดูก ข้อต่อ
+ บำรุงผิว, ผม, เล็บ, กล้ามเนื้อ, เอ็น
+ ช่วยเผาผลาญพลังงาน ลดไขมันส่วนเกิน (คุณสมบัติของ Hydrolyzed Collagen)
+ Type 1,3,4 เหมาะสำหรับผิวหนัง
+ Type 2 เหมาะสำหรับกระดูก, ข้อต่อ
ชนิดของคอลลาเจนมี 29 ชนิด แต่มีเพียง 6 ชนิดที่พบมาก
+ ชนิดที่ 1 (Type 1) เส้นผ่าศูนย์กลาง 80 – 160 นาโนเมตร พบในกระดูก ผิวหนัง เส้นเอ็นกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด เมื่อเราโตขึ้นคอลลาเจน Type I ก็จะถูกสังเคราะห์ขึ้นมาแทนที่ Type 3 จนกระทั่งอายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ โดยลดลงในอัตรา 1.5% ต่อปี
+ ชนิดที่ 2 (Type 2) เล็กกว่า 80 นาโนเมตร พบในหมอนรองกระดูก และกระดูกอ่อน
+ ชนิด ที่ 3 Type 3) คนปกติจะพบในม้าม กล้ามเนื้อ และหลอดเลือดแดงเอออต้า แต่ในวัยเด็กเราจะมีคอลลาเจน Type III มากที่สุด ผิวของเด็กจึงดูนุ่มเนียน เต่งตึงสะดุดตากว่าวัยไหนๆ เพราะชนิดนี้จะมีคุณสมบัติให้ความยืดหยุ่นได้ดีเยี่ยม
+ ชนิดที่ 4 ในเยื่อหุ้มเซลล์ และกล้ามเนื้อ
+ ชนิดที่ 5 พบในเซลล์ที่ใช้สร้างไข่ของหญิงและเยื่อเซลล์
+ ชนิดที่ 6 ในกล้ามเนื้อและผิวหนัง
* ควรอ่านและศึกษาตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ หรือทานตามคำแนะนำของแพทย์ / เภสัชกร หรือนักโภชนาการ *
* หลังจากเปิดฝาผลิตภัณฑ์แล้ว ควรทานให้หมดภายใน 3-6 เดือน (เพื่อป้องกันการเสื่อมคุณภาพที่อาจเกิดจากกการเก็บรักษาและอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะยังไม่หมดอายุก็ตาม) *
คำเตือน ควรเก็บไว้ในที่ร่มและพ้นแสง - ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
-
การได้รับสารอาหารต่างๆ ควรได้รับจากการบริโภคอาหารหลักหลายชนิดให้ครบ 5 หมู่และเป็นสัดส่วนที่พอเหมาะ
-
ควรรับประทานตามความเข้มข้นที่เหมาะสม กรุณาอ่านข้อมูลการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยละเอียด
-
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวไม่ใช่ยา จึงไม่มีผลในการบำบัดรักษาและบรรเทาอาการของโรค เป็นเพียงสารอาหารที่ออกฤทธิ์ตามคุณสมบัติเท่านั้น
Health Tips
-
ทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และธัญพืช
-
ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
-
ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชม. จะช่วยให้ผิวพรรณแลดูสดใส
-
ทำอารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ เพื่อชะลอวัย
-
ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น
